DW จัดเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์การลงทุนที่มีการอ้างอิงราคากับหุ้นและดัชนีอ้างอิงที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้แบบทวีคูณ ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีข่าวคราวว่า มีนักลงทุนสามารถสร้างกำไรจาก DW ได้ถึงเกือบ 4 ล้านบาทจากเงินต้นทุนเพียงหลักพันเท่านั้น และจุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกต่างให้ความสนใจที่เริ่มลงทุนกับสินทรัพย์อย่าง DW มากขึ้น ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการสร้างผลตอบแทนกับการลงทุน DW แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพิจารณาอย่างไรเพื่อสามารถสร้างกำไรจาก DW ได้ ลองมาทำความรู้จักกับ 3 ปัจจัยที่ต้องเช็กให้ดีก่อนลงทุน DW ที่นำมาฝากในวันนี้กัน!
เลือกลงทุนให้ถูกจังหวะ
โดยปกติแล้ว นักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทั่ว ๆ ไปอย่างหุ้น หรือ กองทุนนั้นจำเป็นที่ต้องถือสินทรัพย์เอาไว้ในระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นจึงทำการซื้อขายเพื่อสร้างผลตอบแทน ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง ตลาดการลงทุนที่มีความผันผวนก็สามารถสร้างโอกาสการขาดทุนได้เช่นกัน แต่สำหรับการลงทุน DW นั้น นักลงทุนสามารถสร้างกำไรกับ DW ได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้น และ ตลาดขาลง โดยสังเกตจากหุ้น หรือ ดัชนีอ้างอิงเป็นหลัก เช่น หากหุ้นอ้างอิงกำลังปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนก็สามารถเลือกลงทุน Call DW เพื่อสร้างผลตอบแทนได้ แต่หากหุ้น หรือ ดัชนีกำลังปรับตัวลดลง นักลงทุนก็สามารถทำกำไรกับ Put DW ได้เช่นกัน เพียงเลือกพิจารณาและลงทุน DW ให้ถูกประเภทก็สามารถสร้างโอกาสทำกำไรได้แล้ว
อย่าลืมพิจารณา Time Decay
แม้จะสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและลง แต่ DW นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีอายุจำกัด เนื่องจากมีค่า Time Decay หรือค่าเสื่อมเวลาที่ทำให้มูลค่าลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปนั่นเอง ดังนั้น หากใครต้องการทำกำไรกับ DW ล่ะก็ นอกจากจะพิจารณาเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดแล้ว อย่าลืมตรวจสอบค่าเสื่อมเวลาของ DW ให้ดีเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว DW ที่มีค่า Time Decay สูงมากจะมีความผันผวนสูง ทั้งในเชิงราคา รวมไปถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับหุ้น หรือ ดัชนีอ้างอิง จนทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนได้
เลือก DW ที่มีค่า Effective Gearing ให้เหมาะสม
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า นักลงทุนสามารถทำกำไรจาก DW แบบทวีคูณได้ โดยตัวคูณผลตอบแทนนี้จะมีชื่อเรียกว่า Effective Gearing หรือ อัตราทด นั่นเอง อย่างไรก็ดี อัตราทดในส่วนนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยคูณผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวคูณผลขาดทุนที่ได้รับเช่นกัน
สมมติตัวอย่างง่าย ๆ หากนักลงทุนเลือกลงทุน DW ที่มี Effective Gearing สูงถึง 10 เท่า หากได้กำไรจาก DW มา 3,000 บาท เมื่อรวมกับ Effective Gearing เข้าไปก็จะได้กำไร 3,000 x 10 หรือ 30,000 บาท แต่หากขาดทุนที่ 1,000 บาท ค่า Effective Gearing ก็จะทำให้ขาดทุนสูงถึง 10 x 1,000 หรือ 10,000 บาทเลยทีเดียว
ดังนั้น เมื่อรู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมพิจารณาความเสี่ยงที่ตัวเองรับไหว พร้อมวางแผนการลงทุนและเลือก DW ที่มีค่า Effective Gearing ที่เหมาะสมกับแผนการลงทุนของเราด้วย
จะเห็นได้ว่า การทำกำไรกับ DW นั้นมาพร้อมกับปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ซึ่งนอกจากจะรู้จักทั้ง 3 ปัจจัยที่นำมาฝากแล้ว หากต้องการลงทุน DW ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักลงทุนยังควรศึกษาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเงื่อนไขการลงทุน เพื่อเป็นการพิจารณาและวางแผนเพื่อบริหารความเสี่ยงร่วมด้วย