สายบิวตี้หลาย ๆ คนที่ติดตามเทรนด์ในโซเชียล คงไม่พลาดที่จะได้เห็นกระแสการดูแลผิวจากคุณหมอผิวหนังหลาย ๆ ท่าน ทั้งไทยและเทศ เกี่ยวกับการแนะนำถึงสกินแคร์ที่มีสารชื่อว่า “เรตินอล (Retinol) ” ในการนำมาเมนเทนผิวในระยะยาว พร้อมบอกผลลัพธ์และสรรพคุณที่พูดได้เลยคำเดียวว่า “ปัง!” ใครที่มองหาตัวช่วยเทคแคร์ผิวให้สวยเรียบเนียน ดูอิ่มน้ำแบบสาวเกาหลี ทั้งยังลดสิวใต้ผิว ต้องห้ามพลาดบทความนี้
เรนิตอล (Retinol) คืออะไร?
เรตินอล (Retinol) คือ อนุพันธ์วิตามินเอชนิดหนึ่ง ซึ่งพบได้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมาย โดยเรตินอลมีคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะเรตินอลจะทำงานโดยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และช่วยลดเลือนริ้วรอย-จุดด่างดำ นอกจากนี้ เรตินอลยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น ส่งผลให้ผลลัพธ์ได้จะกลายเป็นผิวกลาสสกินที่ดูฉ่ำวาว เหมือนมีน้ำกลิ้งตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม การใช้เรตินอลถือเป็นสุดยอดของการใช้สกินแคร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีทริกมากมายที่เหล่ากูรูผู้รู็ได้ออกมาแนะนำกันนั่นเอง
ประโยชน์ของเรตินอล
- ต่อต้านริ้วรอย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ลดเลือนจุดด่างดำ
- กระชับรูขุมขน
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
ข้อควรระวังในการใช้เรตินอล
- ระวังอย่าให้เรตินอลสัมผัสกับดวงตา
- หลีกเลี่ยงการใช้เรตินอลร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA และ BHA
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด
- หยุดใช้เรตินอลหากมีอาการระคายเคือง
- เรตินอลมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น เซรั่ม ครีม และโลชั่น ควรเลือกผลิตภัณฑ์เรตินอลที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของตนเอง
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้เรตินอล ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลในเปอร์เซ็นต์ต่ำ เช่น 0.025% หรือ 0.05% และค่อย ๆ เพิ่มเปอร์เซ็นต์ขึ้นตามลำดับ โดยข้อแนะนำที่ดีที่สุดคือการทาผลิตภัณฑ์เรตินอลเฉพาะในเวลากลางคืน และใช้เทคนิคการทาแบบแซนด์วิช (Retinol Sandwich Method) และเมื่อผิวคุ้นชินให้เปลี่ยนไปทำ Skin Cycling เพื่อเผยผิวฉ่ำโกลว์ต่อได้
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เรตินอลร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA และ BHA นอกจากนี้ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้มากขึ้นได้